วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558
ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นใหม่ ทำให้ อำนาจ รื่นเริง พลิกชีวิตจากผู้ต้องขังมาเป็นแชมป์มวยโลก สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ต้องขังเป็นอย่างมาก
คำพูดที่ว่า "ไม่มีคำว่าสายสำหรับเริ่มต้นใหม่" เหมาะมากสำหรับ อำนาจ เกษตรพัฒนา หรือ อำนาจ รื่นเริง นักชกแชมเปี้ยนโลกรุ่นฟลายเวท ของสหพันธ์มวยนานาชาติ หรือ ไอบีเอฟ ที่สามารถป้องกันแชมป์เป็นครั้งที่ 3 สำเร็จ ด้วยการเอาชนะคะแนน ซู ซิหมิง นักชกชาวจีน ณ โคไท้ เวเนเชียน เขตปกครองพิเศษมาเก๊า เมื่อวันเสาร์ (7 มีนาคม 2558) ที่ผ่านมา... จากชีวิตที่ต้องถูกกักขังอยู่ในเรือนจำ เขาได้สู้ชีวิตพลิกชะตาตัวเอง ด้วยผลงานที่ผ่านมาทั้งในฐานะทีมชาติและแชมป์โลก ทำให้ชีวิตของอำนาจเป็นตัวอย่างให้กับผู้ต้องขังรายอื่นได้เป็นอย่างดีเลยที เดียว
โดยเด็กหนุ่มจาก ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี ต้องไปใช้ชีวิตในเรือนจำตั้งแต่อายุยังน้อย จาก คดีกรรโชกทรัพย์ แต่เพราะอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ทำให้อำนาจที่มีทักษะด้านมวยอยู่แล้วพลิก วิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการชกมวยสากลสมัครเล่นสังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทั่งคว้าเหรียญทองกีฬาแดนสามัคคีเกมส์ 2 ปีซ้อน ซึ่งผลงานที่โดดเด่น ทำให้กรมราชทัณฑ์ จึงส่งอำนาจเข้าแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทย จนสามารถคว้าแชมป์ประเทศไทยได้สำเร็จ แม้เจ้าตัวยังต้องโทษอยู่ก็ตาม
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของนักชกจากแดนต้องขัง ก็ได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชาติและคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัย ก่อนจะประสบความสำเร็จต่อเนื่อง ด้วย การคว้าเหรียญทองแดง เวิลด์ แชมเปียนชิพที่เมืองชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา และเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ที่กว่างโจว เมื่อ ปี 2010 รวมทั้งยังเคยเป็นตัวแทนทีมกำปั้นไทยไปโอลิมปิกในปี 2008 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แต่ด้วยความตั้งใจทำให้ อำนาจ รื่นเริง ที่เบนเข็มเทิร์นโปรไปชกมวยอาชีพ ก็สามารถคว้าแชมป์รุ่นฟลายเวท ของไอบีเอฟ-เอเชียได้สำเร็จ เมื่อปี 2556 ก่อนจะคว้าแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท แพนแปซิฟิก ในอีก 2 เดือนต่อมา
จากนั้น อำนาจ ทำตามฝันด้วยการคว้าแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทของสหพันธ์มวยนานาชาติ หรือ ไอบีเอฟ ในปี 2557 ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวป้องกันแชมป์มาแล้ว 3 ครั้ง โดย ครั้งล่าสุดเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือเป็นการชกที่แฟนหมัดมวยชาวไทย จับตามองเป็นพิเศษ ซึ่งอำนาจก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง ปรากฏว่า สามารถเอาชนะคะแนน ซู ซิหมิง ผู้ท้าชิงชาวจีน ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัยซ้อน อย่างเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 116:111 ทั้ง 3 เสียง สร้างความสะใจให้กับแฟนมวยชาวไทยทั้งประเทศ เนื่องจาก ซู ชิหมิง เป็นนักชกที่สร้างความแค้นให้กับ แก้ว พงษ์ประยูร นักชกเพื่อนร่วมชาติของอำนาจ เมื่อช่วงโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ที่ผ่านมา ด้วยการเอาชนะแบบไม่ใสสะอาดตามกติกา
การหันหลังใหักับอดีตอันมืดดำและตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสิ่งที่ฝัน ทำให้อำนาจ กลายเป็นที่รู้จักของประชาชน และเป็นฮีโร่ของคนไทย ที่สำคัญอำนาจยังให้กำลังใจให้ผู้ต้องขังที่ยังต้องขังอยูในเรือนจำ ด้วยคำพูดที่ว่า "ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นใหม่" เหมือนที่ตัวเขาได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว
มวยคู่เอก สมรักษ์ ชก ผู้พันวิทย์ เดิมพันเงินสูงถึง 5 ล้าน พร้อมตั้งกฎชัดเจน สมรักษ์ใช้ได้แต่หมัด ส่วนผู้พันวิทย์ชกแบบมวยไทย
เมื่อ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 มิตร นคร โปรโมเตอร์ผู้จัดมวยคู่ระหว่าง ยอดวันเผด็จ สุวรรณจิตร หรือ ผู้พันวิทย์ พบกับ สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 1996 เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า มวยดังกล่าวจะจัดขึ้นวันที่ 2 เมษายนนี้ และมีการตกลงกติกาการชกอย่างชัดเจนแล้ว กล่าวคือ สมรักษ์จะชกในแบบมวยสากล ใช้ได้แต่หมัด ขณะที่ยอดวันเผด็จ จะชกในแบบมวยไทย ใช้อวัยวะได้ทุกอย่างทั้งหมัด เข่า ศอก ซึ่งกติกาแบบนี้ จะทำให้มวยคู่นี้สนุกอย่างแน่นอน
สำหรับสาเหตุที่ต้องใช้กฎกติกาแบบนี้ เพราะยอดวันเผด็จแก่กว่าสมรักษ์ถึง 13 ปี ถ้าชกในแบบเดียวกันอาจจะเสียเปรียบได้ ทั้งนี้ เงินเดิมพันของมวยคู่นี้อยู่ที่ 5 ล้านบาท และสมรักษ์จะได้ค่าตัว 500,000 บาท ยอดวันเผด็จรับ 200,000 บา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
