วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
รวมทีมพ่อค้าแข้งแขวนสตั๊ดฤดูกาลนี้
จัดได้เป็นทีมเลย!
จัดได้เป็นทีมเลย!รวมทีมพ่อค้าแข้งแขวนสตั๊ดฤดูกาลนี้
เชื่อว่าฤดูกาล 2012-2013 เป็นอีกปีที่แฟนบอลจะต้องจดจำไปอีกนาน เนื่องจากมีนักเตะประกาศแขวนสตั๊ดกันเป็นว่าเล่น รวมไปถึงผู้จัดการทีมอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันอีกด้วย เรียกว่าได้เอามาจัดเป็นทีมได้สบาย
- ผู้รักษาประตู สตีฟ ฮาร์เปอร์
นายทวารที่รับใช้ “สาลิกาดง”
นิวคาลเซิ่ลมากว่า 20 ปีประกาศแขวนถุงมือในสิ้นฤดูกาลนี้
แม้จะอยู่กับทีมมานาน แต่ก็ไม่ค่อยได้ลงเล่นเท่าไรเพราะ
ต้องตกเป็นผู้รักษาประตูมือสองรองจาก เชย์ กิฟเวน อย่างยาวนาน แม้ กิฟเว่น
ย้ายออกไปแล้วแต่ก็ยึดมือหนึ่งถาวรไม่ได้ซะที
- แบ็กขวา เปาโล แฟร์ไรร่า
แบ็กขวาเลือดฝอยทองที่ โจเซ่ มูรินโญ่
เลือกที่จะหนีบมาด้วยจาก ปอร์โต้ ตั้งแต่ปี 2004 ถือว่าช่วงที่ร่วมงานกับ
“เฮียมู” เป็นช่วงขาขึ้นที่สุดของเจ้าตัว และก็อยู่กับทีมเรื่อยมา
แม้ถูกลดบาทบาทและความสำคัญ ลงไป แต่ก็ปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์
ยูโรป้าลีกกับทีมจนได้
- เซนเตอร์ เจมี่ คาร์ราเกอร์
เป็นอีกนักเตะที่สมควรถุกขนานนามว่า มิสเตอร์ลิเวอร์พูล แขวนสตั๊ดด้วยวัย 35 ปีด้วยเกียรติประวัติติดตัวชนิดไม่อายใคร (2เอฟเอคัพ,3ลีกคัพ,1แชมเปี้ยนส์ลีก,1ยูฟ่าคัพ)จากการลงเล่นให้ “หงส์แดง”
กว่า 700 นัด เริ่มต้นตั้งแต่เป็นเด็กฝึกจนก้าวขึ้นสู่ทีมสุดใหญ่
เป็นกองหลังที่หลายๆคนยกย่อง
ว่ามีความมีระเบียบวินัยและความเป็นมืออาชีพสูง แม้แต่กุนซือทีมผู้แข่งแบบ
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
- เซนเตอร์ คริสตอฟ เม็ตเซลเดอร์
ปราการหลังจอมแกร่งจากเมืองเบียร์
เจ้าของสถิติรับใช้ทีมชาติเยอรมัน 47 นัด
ประกาศยุติเส้นทางค้าแข้งเนื่องจากถูกอาการบาดเจ็บรุมเร้า
ผ่านการลงเล่นให้ทีมระดับบิ๊ก ๆของยุโรปมาแล้ว โดยสร้างชื่อกับ
“เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนย้ายไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด ก่อนกลับมาเล่นให้ชาลเก้04
- แบ็กซ้าย ฟิล เนวิล
อีกหนึ่งเด็กปั้นชุด คลาส ออฟ 92 อันลือลั่นสนั่นปฐพี เริ่มต้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนย้ายมาเพื่อยึดตำแหน่งตัวจริงกับ เอฟเวอร์ตัน
จนได้ดิบได้ดีเป็นถึงกับตันทีม”ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน”
แม้เจ้าตัวยังไม่ประกาศอย่างเป็นทงการว่าเลิกแน่ๆ แต่ดูท่าทางจากสัญญา
และสภาพร่างกายแล้วคิดว่าน่าจะยุติบทบาทนักเตะแล้วมาเลือกจับงานโค้ชแทนแน่
นอน
- ปีกซ้าย สติลิยัน เปตรอฟ
จำใจต้องแขวนสตั๊ดแบบไม่เต็มใจนักสำหรับ
กองกลางทีมชาติบัลแกเรียรายนี้
แต่เนื่องจากถูกโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดฉับพลัน (เอ็กซ์คิวลูคีเมีย)
รุมเร้าขนาดหนักแต่ยังโชคดีที่ได้กำลังใจจากครอบครัวและแฟนบอล
ทำให้เอาชีวิตรอดมาได้ ทุกวันนี้ ในนัดที่ แอสตัน วิลล่า ลงเล่นในบ้าน ในนาทีที่19 (เบอร์เสื้อเปตรอฟ)แฟนบอลเจ้าบ้านจะลุกขึ้นยืนปรบมือเป็นกำลังใจให้เจ้าตัวต่อสู้เพื่อพิชิตโรคร้าย
- กองกลาง พอล สโคลส์
ประกาศรีไทร์ เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้
น่าจะเป็นการเลิกจริงๆซึ่งเจ้าตัวได้รับการคาดหมายว่า
จะขยับไปรับงานโค้ชในสโมสรแทน สำหรับเกียรติประวัติคงไม่ต้องพูดถึง
แม้ช่วงหลังๆจะโรยราไปตามสภาพ แต่เชื่อว่า
ไอ้หัวเพลิงจะยังคงเป็นขวัญใจแฟนผีอีกคนหนึ่งตลอดไป
- กองกลาง มิเชล บัคลัค
อีกหนึ่งกองกลางฝีเท้าดี
ประวัติโชกโชนบนถนนลูกหนังประกาศ ครบเครื่องทั้งเรื่องรุกและรับ
รวมไปถึงการยิงประตู แต่มักจะถูกจดจำในฐานะพระรอง
เนื่องจากเคยคว้าทริปเบิ้ลรองแชมป์กับเลเวอร์คูเซ่น
และรองแชมป์โลกกับเยอรมัน ลาวงการหลังจากหมดสัญญากับ ไบเออร์
เลเวอร์คูเซ่น
- กองกลาง มาร์ค ฟานบอมเมล
กองกลางจอมเก๋าของทัพกังหันสีส้ม
ประกาศเลิกเล่นด้วยวัย 36 ปี หลังจากกรำศึกบนสังเวียนแข้งมากว่า 21 ปี
คว้าแชมป์มากมายกับหลากหลายสโมสรในหลายประเทศ กับทีมบิ๊กๆทั้งนั้น
ไล่ตั้งแต่ พีเอสวี,บาร์เซโลน่า,เอซี มิลาน ก่อนกลับมาแขวนสตั๊ดกับ พีเอสวี แต่น่าเสียดายที่จบไม่ค่อยสวยเพราะเจ้าตัวดันโดนใบแดงในนัดส่งท้ายซะอย่างงั้น
- ปีกขวา เดวิด เบ็คแฮม
เทพบุตรลูกหนัง
เจ้าของสถิติแข้งผู้ดีที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดใน 4 ประเทศ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์
ชั้นคุณภาพจากโรงงานปีศาจแดง ประกาศลาฟลอร์หญ้า บนวัย 38 ปี ชนิดแฟนๆ
น้ำตาซึมเมื่อเจ้าตัวหลั่งน้ำตาออกมา ในการเล่นนัดสุดท้ายกับ เปแอสเช
แต่หลังจากนี้เชื่อว่า น่าจะเบนเข็มไปสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มที่
- กองหน้า ไมเคิล โอเว่น
ศูนย์หน้าร่างเล็ก
ที่ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องยอมแขวนสตั๊ด แจ้งเกิดกับหงส์แดง
ดังเป็นพลุแตกจากการลากผ่านกองหลัง อาร์เจนติน่า เข้าไปซัดแสกหน้าประตู
เป็นหนึ่งในแข้งผู้ดีที่คว้ารางวัล บัลลงกอร์มาครองได้
แต่ดูเหมือนเส้นทางลูกหนังของเจ้าตัวจะไปไม่สุดทาง
เพราะมีอาการบาดเจ็บคอยหลอกหลอน จนถูกลักพาตัวจากสนามไปหลายครั้ง
ผู้จัดการทีม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ประกาศยุติบทบาท หลังจากคุมทีมมานานกว่า 27 ปี เกียรติประวัติมากมายจนนับกันไม่ไหว ผลงานชิ้นโชว์แดงคือการพาแมนยู
เถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย ทำให้คว้าแชมป์ลีกสูงสุดรวม 20
สมัยแซงหน้าคู่อริอย่าง ลิเวอร์พูล
ตามที่เคยได้ประกาศเอาไว้เมื่อตอนรับตำแหน่ง นอกจากนั้น
ยังเป็นผู้ปั้นนักเตะฝีเท้ายอดเยี่ยมประดับวงการอีกหลายต่อหน้าคน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น