สุดยอดทีมยูโร 2012

โม่แข้งกันมาเกือบ 1 เดือน ในที่สุดก็ได้คู่ชิงชนะเลิศแล้ว เป็นการพบกันระหว่างสเปนกับอิตาลี



ที่จะเตะกันวันนี้ (1 ก.ค.) ณ สนามโอลิมปิก ในกรุงเคียฟ ของยูเครน หลังจากอิตาลีพลิกชนะเยอรมนี 2-1 ในรอบตัดเชือกเมื่อวันก่อน

ที่บอกว่าพลิกล็อกก็เพราะก่อนแข่ง

ทีม อินทรีเหล็กทำผลงานสุดยอดจริงๆ ชนะมา 15 นัดรวดในเกมที่มีความหมาย ใครๆก็เชื่อว่า สเปน-เยอรมนี เป็นคู่ชิงที่เหมาะสมที่สุด ส่วนอิตาลีต้องฝ่าฟันจวนเจียนเกือบตกรอบแรก เอาชนะอังกฤษด้วยการต่อเวลายิงจุดโทษ  เป็นทีมที่เหนียวแน่นแต่ยังไม่ดุดันเท่าที่ควร

แต่ไม่ได้ความว่า ใครจะแย่งเครดิตในชัยชนะนัดนี้ไปจากขุนพลอัซซูรีได้ พวกเขาเล่นได้อย่างเหนือชั้น คลาสสิก ยอดเยี่ยมทั้งทีมเวิร์กและความสามารถเฉพาะตัวในนัดนี้ น่าจะชนะขาด ลอยกว่านี้หากไม่ยิงทิ้งยิงขว้างช่วงท้ายเกม คู่ควรกับการเข้าไปชิงแชมป์กับสเปน และถ้ามองย้อนกลับไปในนัดแรกของกลุ่มซีที่พวกเขาสู้กับทีมกระทิงดุได้อย่าง สูสีเสมอกัน 1-1 อาจเป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า อย่ามองข้ามอิตาลี

น่า สังเกตว่า ทีมที่จะประสบความสำเร็จในเกมฟุตบอลสมัยใหม่ ต้องเล่นเกมเพรสซิ่งเก่ง เข้ารุมแย่งบอลคู่ต่อสู้ และนักเตะมีเทคนิค ชั้นเชิง ที่จะครองบอลทำเกมได้ต่อไป เกมรับวางใจได้ ซึ่งอิตาลีและสเปนเป็นบอลประเภทนี้

อิตาลีมีแกนหลักจากยูเวนตุส แชมป์กัลโช ถึง 6 คนในสนาม โดยเฉพาะแผงหลังและผู้รักษาประตู มาจากทีมม้าลายถึง 4 คน ประกอบด้วย จิอันลุยจิ บุฟฟอน, อันเดรีย บาร์ซาญี, เลโอนาร์โด โบนุชชี และจอร์โจ

คิเอลลินี และแดนกลางมี อันเดรีย ปีร์โล, เคลา-ดิโอ มาร์คิซิโอ แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อความสำเร็จจากสโมสรมาสู่ทีมชาติได้อย่างดี ไม่ว่า อิตาลีจะเป็นแชมป์หรือไม่ก็ตาม

เยอรมนีเป็นทีมที่มีนักเตะ อายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในยูโรครั้งนี้ อยู่ที่ 25 ปีเท่ากับโปแลนด์ ตอนบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพ ครั้งนั้นอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เริ่มมีดาวรุ่งขึ้นมาเสริมทีม เยอรมนีได้อันดับ 3 อีก 2 ปีต่อมาในบอลยูโร 2008 ได้รองแชมป์ บอลโลก 2010 ได้ที่ 3 และยูโรครั้งนี้ เข้าถึงรอบตัดเชือก

ทีม อินทรีเหล็กติดอยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์ของทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาตลอด แต่อิตาลีแสดงให้เห็นว่า นักเตะเก๋าก็ยังมีประโยชน์ เป็นแกนหลักของทีมได้อย่างบุฟฟอนที่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบเปี่ยมไปด้วยความ มั่นใจทำให้ทีมฮึกเหิม และปีร์โลที่เล่นได้อย่างสุดยอด หากอิตาลีคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ผลงานกับยูเวนตุสและทีมชาติน่าจะทำให้เขามีลุ้นรางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ หรือนักเตะแห่งปี 2012 แข่งกับลีโอเนล เมสซี และคริส-เตียโน โรนัลโด ได้อย่างไม่เป็นรองหรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ

และอีกคนหนึ่งที่ไม่เขียนถึงไม่ได้เลย คือ มาริโอ  บาโลเตลลี  การวิ่งหาตำแหน่งและการปิดสกอร์ของเขาเฉียบขาดจริงๆ ด้วยฝีเท้า

ล้วนๆ เขาเป็นหนึ่งในหัวหอกระดับเวิลด์คลาส เหลือเพียงการควบคุมอารมณ์และทำตัวให้สมกับเป็นมืออาชีพ ไม่ก่อปัญหาให้ทีม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเล่นของเขาอย่างที่เห็นกันมาตลอดในทีมแมนฯซิตี้ ซุปเปอร์มาริโอจะเป็นสุดยอดดาวยิงคนหนึ่งของวงการไปอีกหลายปี เพราะปัจจุบันอายุแค่ 21 ปีเท่านั้น

ชื่นชมผลงานอิตาลีมาเสียยืดยาว แล้วนัดชิงชนะเลิศกับสเปนล่ะ? บอลคู่นี้ทันกัน เล่นสไตล์คล้ายๆกัน คือ ครองบอลให้มากที่สุด เยอรมนีและอังกฤษอาจจะเสียบอลง่ายในการเล่นกับอิตาลี แต่ไม่ใช่สเปนอย่างแน่นอน

คุณแย่งบอลไป ผมก็แย่งกลับมาได้ นี่คือภาพที่เห็นจากนัดแรกที่เจอกันในกลุ่มซี นอกจากนี้ แนวรับของสเปนก็เหนียวแน่นไม่ธรรมดา เกมอาจจะยืดเยื้อไปถึงขั้นต่อเวลาและยิงจุดโทษ เหมือนที่เจอกันในยูโร 2008 แต่ถึงที่สุดแล้วผมยังเชื่อในความ (เกือบ) สมบูรณ์แบบและประสบการณ์การเข้าชิงบอลระดับนี้เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ 3 ติดต่อกัน

ในยุคทศวรรษที่ 70 ทีม “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ยุครุ่งเรืองเคยทำได้แบบนี้มาแล้ว จากการเข้าชิง 3 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกัน เริ่มจากยูโร 1972 (แชมป์), บอลโลก 1974 (แชมป์) และยูโร 1976 (รองแชมป์)

จะ เห็นได้ว่า เส้น ทางของสเปนคล้ายกับเยอรมนีที่ได้แชมป์ยูโรต่อด้วยแชมป์โลก และเข้าชิงยูโร อย่างน้อยตอนนี้กระทิงดุก็ทำสถิติเทียบเท่าอินทรีเหล็กได้แล้ว เหลือเพียงคว้าแชมป์ยูโร 2012 ก็จะเป็นทีมแรกของวงการที่ชนะเลิศแฮตทริกได้สำเร็จ

ผมเองก็ใกล้จะหมด ภาระหน้าที่การมาทำข่าวยูโร 2012 แล้ว วอร์ซอยามนี้เงียบเหงาเหลือเกิน ถนนทุกสายมุ่งสู่นัดชิงชนะเลิศที่เคียฟ ชาวโปแลนด์กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง ส่วนท่านที่ส่งไปรษณียบัตรมาร่วมสนุกชิงรางวัลเงินสด 30 ล้านบาท กับ นสพ.ไทยรัฐ ก็รอลุ้นโชคกันต่อไป เราจะมีรายการแบบนี้มาตอบแทนคุณผู้อ่านอีกอย่างแน่นอน