ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ข่าวฟุตบอลอับเดตล่าสุด

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ดราม่าฟุตบอลไทย ได้เวลากลับไปทวงความยิ่งใหญ่หรือยัง ?
 
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012  ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับ มาเลเซีย จะทำการระเบิดศึกอย่างเป็นทางการ ซึ่งในขณะนี้ “วินนี่”  วินฟรีด เชเฟอร์ ก็กำลังที่จะ ประกาศรายชื่อ 23 ขุนพลช้างศึก(ล่าสุดประกาศแล้ว คลิกเพื่อดูใครเป็นใคร)ที่ จะเข้ากรีฑาทัพ โรมรันพันตู เพื่อชิงความยิ่งใหญ่ในย่านนี้คืนกลับมา หลังจากร้างลาไปกว่า 10 ปีเต็มพอดิบพอดี โดยแชมป์ครั้งสุดท้ายของทีมชาติไทยของเราต้องย้อนกลับไปถึงปี 2002 นู้นเลยทีเดียว เรียกว่า ทัวร์นาเม้นท์นี้ จะเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายของปีที่จะเรียกศรัทธาของแฟนบอลให้กลับคืนมา

หลังจากผลงานของทีมชาติ ดิ่งเหวมาตลอด ตั้งแต่โดน โอมาน ถีบตกรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก หรือแม้แต่ ฟุตบอลซีเกมส์ ที่ เราเคยครองความยิ่งใหญ่มาตลอด ซึ่งครั้งหลังๆ รอบแรกก็ยังไม่สามารถจะผ่านได้  แถมมีข่าว เรื่องระบบการจัดการ ที่ผิดพลาด วางแผนผิดพลาด แม้แต่เกมส์อุ่นเครื่องตามปฎิทิน ฟีฟ่า ที่ทุกชาติต่างลงเตะกันหน้าสะลอน แต่บรรดาแข้งไทยต้องก้มหน้าก้มตา หวดฟุตบอลลีกบ้าง ฟุตบอลถ้วยในประเทศบ้าง ปล่อยให้เพื่อนบ้านหรือทีมอื่นๆ โกยคะแนนในฟีฟ่า เวิร์ด แร้งค์กิ้ง กันเพลิน ลืมตามาดูอีกที เรามายืนอยู่ที่อันดับที่ 152 ของโลกซึ่งถือว่า “ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์” แถมในอาเซียนเรายังเป็นรองทั้ง เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ เพื่อนร่วมสายอีกต่างหาก
ก่อเกิดเป็นความกดดัน กลับมาที่ตัวสมาคมฟุตบอลเอง เพราะที่ผ่านมาฉายแวว ตลอดว่า ปัญหาอยู่ที่ระบบการจัดการของทั้งตัว สมาคมฟุตบอลเอง และ ตัวบริษัทลูกอย่าง ไทยพรีเมียร์ลีก จริงอยู่ว่าลีกไทย กำลังบูม แต่ไฉนทีมชาติกลับตกต่ำ คำตอบง่ายๆ คือ แต่ล่ะทีม มุ่งมั่นสนใจแต่ทีมชุดใหญ่และการแข่งขัน จนลืมให้ความสำคัญกับ การวางระบบรากฐานของเยาวนท้องถิ่น ที่จะขึ้นมา รับช่วงต่อจากพี่ๆ ซึ่งตอนนี้ เรียกว่า นับหัวได้ว่าทีมไหนบ้างที่มี อคาเดมี่ และ ลงมือทำอย่างจริงจัง ซึ่งเราคงต้องมาว่ากันครั้งหน้า
สำหรับการเตรียมทีมในครั้งนี้ ถือว่า ยังไม่พร้อมที่สุด แต่สำหรับทีมชาติไทยคงไม่มีข้ออ้างอันใด สำหรับรับทีมสุดนี้  น่าจะลงตัวเกือบทุกตำแหน่ง ซึ่งตัว “วินนี่” น่าจะเลือกใช้ โมเดลของ “กิเลนผยอง” วางเป็นโครงสร้างพื้นฐานของ ทีมชาติชุดนี้ ก่อนหยิบผู้เล่นจากสโมสรอื่นแซมลงไป เพราะดูจากการอุ่นเครื่อง ครั้งล่าสุดกับ บังคลาเทศ ซึ่งเป็นการลงทีมครั้งสุดท้าย กุนซือชาวเยอรมัน เลือกที่จะใช้ผู้เล่นจากทีมแชมป์ไร้พ่าย ลงเล่นเป็นตัวจริงถึง 7 ตำแหน่งด้วยกัน ซึ่งน่าจะทำให้เรื่องความเข้าขารู้ใจน่าจะทำได้ดี เพราะฉะนั้น หน้าตาของผู้เล่นตัวจริง ไม่น่าจะผิดเพี้ยนไปมากนักขึ้นอยู่กับ แท็กติกในแต่ละเกมส์
เหลือ เวลาอีกเพียงไม่กี่วันแล้ว การร้างลาความสำเร็จ บนภูมิภาคที่เราเคยเป็นเต้ย มาตลอด เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรากำลังย่ำถอยหลัง หรือ คนอื่นเค้าวิ่งตามมาจนแซง หรือตั้งสองอย่างพร้อมกัน  ถ้าเป็นหนึ่งในย่านนี้ไม่ได้ เรื่องอื่นๆ เลิกหวังได้เลย สำหรับคนที่จะให้คำตอบในเรื่องนี้ได้ดีที่สุดเห็นจะไม่พ้น คู่ต่อสู้ของเรา สำหรับรายการนี้ ต้องแชมป์สถานเดียว สถานะอื่นสำหรับทีมชาติไทยคือล้มเหลว  ได้เวลากลับไปทวงความยิ่งใหญ่คืนแล้ว !!
โปรแกรมทั้ง สามนัดในรอบแรกของทีมชาติไทย

0 ความคิดเห็น: